1.ค่านิยมของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน
1.1 แฟชั่นการแต่งตัวของวัยรุ่น
ด้วยการที่ปัจจุบันนี้มีการนำวัฒนธรรมต่างๆของชาวต่างชาติเข้ามาเป็นอย่าง
ต่อเนื่อง
ซึ่งเรียกได้ว่านั่นจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วัยรุ่นในปัจจุบันนี้มีทัศนคติ
ต่างๆที่เปลี่ยนไปอีกด้วยเช่นกัน
ซึ่งนั่นก็ทำให้วัยรุ่นมีค่านิยมที่เปลี่ยนไปจากเดิมอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมในการแต่งตัวของวัยรุ่นไทย ที่ทุกวันนี้มีการเลียนแบบต่างประเทศมาก
ซึ่งวัยรุ่นจะมีการแต่งตัวที่ไม่เหมือนเดิมด้วยการที่มีแฟชั่นใหม่ๆเกินขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง ซึ่งอาจจะได้เป็นการที่วัยรุ่นได้เสพเอาค่านิยมอย่างประเทศเกาหลีเข้ามามากกว่าเดิมก็ได้
และก็ยังมีอีกหลายประเทศด้วยกัน วัยร่นนั้นเป็นวัยที่มีความคิดแปลกใหม่ และไม่สนใจความคิดของคนอื่น
คิดว่าความคิดของตนเองนั้นเป็นใหญ่และก็ถูกอยู่เสมอเป็นส่วนใหญ่
จึงเป็นวัยที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกใน ด้านต่างๆด้วย
และสำหรับการแต่งตัวทุกวันนี้
วัยรุ่นไม่ค่อยจะมองเห็นวัฒนธรรมของความเป็นไทยที่มีมาแต่โบราณสักเท่าไหร่
หรอกเนื่องจากว่าอยากจะแต่งแบบไหนก็ตามใจตนเองและเชื่อความคิดของตนเองด้วย
และทุกวันนี้ค่านิยมทางแฟชั่นการแต่วงตัวของวัยรุ่นก็ยังผิดๆด้วยเพราะว่า
การที่แต่งตัวฟิตๆสั้นๆ เป็นที่แน่นอนว่าต้องมีปัญหาตามมาอย่างแน่เพราะว่า
จะล่อแหลมต่อสายตาคนมองและนั้นก็จะสามารถทำให้เกิดการก่ออาชญากรรมตามมาได้
อีกด้วยเช่นกัน อย่างที่เราเห็นตามสื่อต่างๆ เป็นประจำนั่นเองค่ะ
วัยรุ่นไทยนั้นก็ควรที่จะแต่งตัวให้ถูกการะเทศะเพื่อเป็นการลดปัญหาการก่อ
เหตุการณ์ร้ายๆต่างที่อาจจะเกิดขึ้นในสังคมไทยก็ได้
เรื่องของการแต่งกายนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเราก็ต้องเรียนรู้การแต่งกายเพื่อความเหมาะสม
และก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเรา
1.2 การทานผักของวัยรุ่น
ด้วยการที่ปัจจุบันนี้วัยรุ่นได้มีการเปลี่ยนค่านิยมต่างๆ ใหม่ๆอยู่เสมอ
อีกทั้งยังมีความคิดที่มั่นใจและเป็นของตัวเองมากขึ้น ด้วย
อย่างเช่นวัยรุ่นหลายๆคนที่เป็นตัวของตัวเองที่สูง อย่างที่เรียกกันว่าเด็กแนว
สำหรับเรื่องของการทานอาหารของวัยรุ่นก็มีค่านิยมที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งการทานอาหารของวัยรุ่นที่มีการเปลี่ยนไปนั้นก็อย่างเช่นมีการนั่งทาน
อาหารตามร้านที่มีคนเยอะ เพื่อเป็นการอวดกัน
และอาหารแต่ละประเภทก็ล้วนไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อมีรสนิยมการกินอาหารที่
เปลี่ยนไป การทานผักของวัยรุ่นจึงได้มีการลดลงไปด้วย
วัยรุ่นหลายๆคนที่มีความคิดที่ผิด อาจจะทานอาหารที่ไม่มีผักเลย และนั่นก็ยังเป็นการทำร้ายสุขภาพยังไม่พอหรอก
เพราะว่านอกจากวัยรุ่นจะไม่ทานผักแล้ว
วัยรุ่นก็ยังหันไปบริโภคแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์มากขึ้นด้วย
อย่างเช่นพวกอาหารที่ทำจากแป้งที่วัยรุ่นมีการบริโภคมากข้น
อีกทั้งยังมีการทานหรือดื่มพวกอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพด้วย อย่างเช่นการดื่มสุรา
ของมึนเมาต่างๆที่เป็นส่วนที่ก่อให้ร่างกายเกิดความเสื่อมโทรมได้ง่าย
อีกทั้งยังวัยรุ่นยังชอบทานอาหารขยะต่างๆ อย่างเช่นขนมอบกรอบต่างๆ
ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำรายสุขภาพเราได้นั่นเองค่ะการที่วัยรุ่นเป็นวัย
ที่กำลังต้องการสารอาหารเพื่อบำรุงการเจริญเติบโตนั้น
การทานผักจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญด้วย
2.สาเหตุที่ส่งผลให้ค่านิยมของวัยรุ่นเปลี่ยนไปจากสมัยก่อน
2.1 ชอบทดลอง
วัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้ – อยากเห็น ชอบทดลอง โดยปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุต่างๆ
ที่เป็นแรงผลักดันให้
วัย
รุ่นแสดงออกถึงความต้องการมีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แผ่นซีดีลามก
หนังสือการ์ตูน อุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มความสนุกระหว่างร่วมเพศกันมากขึ้น
ซึ่งปัจจุบันสิ่งต่างๆเหล่านี้ ก็หาซื้อได้ง่ายขึ้น
และเป็นสิ่งกระตุ้นให้วัยรุ่นอยากมีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้น
ทั้งที่สังคมไทยในสมัยก่อน ไม่ค่อยจะยอมรับกับสิ่งต่างๆเหล่านี้
แต่ในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว สำหรับสังคมไทย
2.2 การออดอ้อน
ทนต่อแรงออดอ้อนของอีกฝ่ายไม่ไหว
บางคนอาจจะอ้างมาเพื่อพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อกันบ้าง หรือว่า
ถ้า
ไม่ยอมก็แสดงว่าไม่รักกันจริง ทำให้อีกฝ่าย (ซึ่งมักจะเป็นผู้หญิง)
ทนต่อคำออดอ้อนของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ไหว หรือการออดอ้อนในเทศกาลต่างๆ เช่น
พิสูจน์กันในเทศกาลแห่งความรัก “วันวาเลนไทน์”
ซึ่งมีสถิติว่ามีคนหนุ่ม – สาว
มีเพศสัมพันธ์กันมากในวันนี้ ถ้าสิ่งต่างๆเหล่านี้ เกิดขึ้นในสังคมไทยสมัยก่อน
ลูกสาวบ้านนั้นคงจะตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน และอับอายจนอาจจะต้องย้ายที่อยู่กันเลย
แต่ในปัจจุบันเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กลับเป็นเรื่องของชายกับหญิงเท่านั้น
เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เช่น การตั้งครรภ์ เรื่องถึงจะรู้ถึงผู้ใหญ่ให้ช่วยแก้ปัญหาให้
2.3 แฟชั่น
การได้เสียกันในปัจจุบันถือว่าเป็นไปตามกระแสของแฟชั่น กล่าวคือ
หากคนรักคู่ใดเป็นแฟนกันมา นาน แล้วไม่มีอะไรกันถือว่าเชย
หรือบางคู่ถ้าฝ่ายหญิงไม่ยอมตกเป็นของฝ่ายชาย ถึงขั้นเลิกกันก็มี
เพราะหาว่าไม่รักกันจริง “คำก็อ้างว่าไม่รัก
สองคำก็อ้างว่าไม่รัก สุดท้ายก็ยอมมันเสียเลย”
2.4
ความรู้สึกเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน
การมีเพศสัมพันธ์กันนั้น
เหมือนกับการได้สัมผัสเรือนร่างของอีกฝ่ายหนึ่ง ได้สัมผัสร่างกายของกัน
และ กัน
ทำให้ต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกว่าเป็นของกันและกัน โดยในสมัยก่อนนั้นชาย – หญิง จะถูกเนื้อต้องตัวกันได้ ก็ในคืนวันแต่งงาน
หรือว่าบางคู่ ยังไม่มีฤกษ์เข้าหอ ฝ่ายชายก็ต้องรอจนกว่าจะมีฤกษ์
ถึงจะได้สัมผัสเนื้อตัวฝ่ายหญิง และหากแต่งงานกันแล้ว หากหญิงใดที่แอบปันใจ
หรือไปมีอะไรกับชายอื่น ผู้หญิงคนนั้นก็จะถูกประนามและกล่าวว่ามี “ชู้” แต่ในสังคมปัจจุบันการมีเพศสัมพันธ์กับใคร
ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และยังสามารถไปมีอะไรกับคนอื่นได้อีก
โดยไม่เกรงกลัวต่อการผิดหลักศีลธรรมเหมือนที่ผ่านมา
2.5 ความรู้สึกว่าตนเองมีค่าต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
การรู้จักและคบหากันจนถึงขั้นที่เรียกว่า
“แฟน” นั้น
หลายคู่ใช้ระยะเวลาสั้น – ยาว ที่แตกต่างกัน
แต่
แน่นอนว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของคู่รักจบลงที่การมีเพศสัมพันธ์กัน
ซึ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตนเป็นที่ต้องการหรือมีค่าสำหรับอีกฝ่ายหนึ่ง
โดยหญิงใดในสังคมไทยปัจจุบันที่สามารถรักษาพรหมจรรย์ ได้ถึงวันแต่งงาน
ซึ่งนับวันจะมีน้อยลงทุกที ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
สังคมไทยปัจจุบันควรปลูกฝังให้หญิงไทยหันกลับมารักนวลสงวนตัว หวงแหนพรหมจรรย์
เอาไว้ถึงวันแต่งงานกันดีกว่า
2.6 สัญชาตญาณของการสืบพันธุ์
การมีเพศสัมพันธ์ถ้าจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือว่าสัตว์ก็ตาม แต่อาจ
จะ
แตกต่างกันตรงที่สัตว์นั้นบางชนิดอาจจะเป็นช่วงฤดูกาลอยู่บ้าง
แต่สำหรับมนุษย์เราแล้วนั้นไม่จำกัดเวลา
วัยรุ่นเมื่อถึงวัยจะมีแรงผลักดันจากฮอร์โมนภายในร่างกาย
ให้แสดงออกถึงความต้องการของการมีเพศสัมพันธ์
โดยการแสดงออกของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป บางคนต้องการถึงขนาดไปข่มขืน
หรือว่าเอาญาติพี่ – น้อง
ด้วยกันเองก็มี อย่างที่เป็นข่าว ให้เห็นกันเกือบทุกวัน
3.ค่านิยมที่ควรปลูกฝังให้กับวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน
“สิ่งแวดล้อมของครอบครัว” คือ
การที่พ่อแม่หรือคนในครอบครัวยังคงให้ลูกหลานรักษาระเบียบวินัย
และเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ คือมักจะไม่ค่อยปล่อยให้ลูกมีอิสระมากนัก
ซึ่งจะให้ลูกอยู่ในโอวาทตลอด
การให้ลูกเป็นศูนย์กลางเพื่อแสดงพฤติกรรมที่เป็นอิสระทั้งการกระทำ และทางความคิด
จึงมาจากแนวทางปฏิบัติของพ่อแม่
ดังนั้นการปฏิบัติตนและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่จึงมีอิทธิพลต่อกระบวนการขัดเกลาให้กับเด็กและวัยรุ่นในสังคมไทยอย่างมาก
และค่านิยม ซึ่งค่านิยมของวัยรุ่นมักจะเกิดจากกระบวนการขัดเกลาทางสังคม
และการอบรมบ่มนิสัยภายในครอบครัว โดยวัยรุ่นจะกระทำในสิ่งที่พึงพอใจ
และไม่กระทำในสิ่งที่ตนเองไม่พึงพอใจ
อีกทั้งพฤติกรรมการแสดงออกของวัยรุ่นจึงเกิดจากอิทธิพล ปัจจัยแวดล้อมในเรื่องความเป็นอิสระส่วนตัว
การปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณี การเคารพพ่อแม่
และการอยู่ในโอวาทที่คอยเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่
ซึ่งนี้คือค่านิยมที่วัยรุ่นยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
และการแสดงออกทางพฤติกรรมของตนเอง ได้แก่ การรู้จักควบคุมตนเอง
เห็นคุณค่าของค่านิยมดั้งเดิม เช่น การทำบุญประเพณี การไปวัด ไปโบสถ์และมัสยิด
พฤติกรรมสนับสนุนเชิงสังคม และการแสดงความเชื่อมั่นด้านความยุติธรรม และความสงบสุข
ซึ่งจะเชื่อมั่นในการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว
และเห็นคุณค่าความเป็นอิสระโดยการแสดงความสามารถที่จะประสบความสำเร็จใน
ชีวิตอย่างมีความสุข และการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพการสร้างค่านิยมให้กับเยาวชน
ที่มา : http://nanasatun.blogspot.com/2013/01/blog-post.html?m=1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น