วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีอันไม่พึ่งประสงค์ของวัยรุ่นไทย

ในยุคปัจจุบันถือว่าเป็นยุคแห่งการวิวัฒนาการเทคโนโลยีใหม่ๆโตเติบและถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก ร่วมทั้งประเทศไทยได้มีเทคโนโลยีเข้ามาแพร่หลายและมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตในทุกเพศทุกวัยรวมทั้งวัยที่ถือว่าจะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของประเทศชาตินั้นก็คือเยาวชนไทย ที่เทคโนโลยีเข้ามาอิทธิพลเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต หรือโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารอีกมากมายที่เข้ามามีอิทธิพลในการดำเนินชีวิตจนไปถึงสังคมของวัยรุ่น ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาทำให้เกิดผลดีและผลเสียตามมา การใช้เทคโนโลยีในปัจจุบันโดยเฉพาะเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต หรือโทรศัพท์ นอกจากผู้ใช้จะได้รับประโยชน์แล้วบางรายเจ้าเทคโนโลยีเหล่านั้นก็อาจจะให้โทษหรือเกิดผลเสียเนื่องจากการใช้ผิดประเภทและผิดวัตถุประสงค์จนเกิดเป็นข่าวใหญ่ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนออย่างต่อเนื่องและนานวันจะยิ่งบานปลายและเพิ่มขึ้นตามกระแสการบริโภค
              น.พ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า ความเสื่อมโทรมของสังคมและพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีของวัยรุ่นในปัจจุบันนั้น หากใช้ผิดประเภทและไม่ถูกวิธีก็อาจจะได้รับผลเสียหรือตกเป็นเหยื่อจากภัยสังคมได้ เพราะในปัจจุบันวัยรุ่นส่วนมากใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อวัตถุประสงค์อื่นมากกว่าการค้นคว้าหาข้อมูล ส่วนมากจะใช้เล่น เฟชบุ้ค ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น ที่นอกจากจะมีการโพสต์รูปของตัวเองแล้ว ยังมีการขายบริการทางเพศแอบแฝงอีกด้วย
          นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมแชทออนไลน์ที่วัยรุ่นส่วนมากใช้สนทนากัน เช่น เอ็มเอสเอ็น และ แคมฟร็อก รวมถึง เกมออนไลน์ ด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของวัยรุ่น เนื่องจากเกิดการติดงอมแงม เลิกไม่ได้ เพราะหากไม่ได้เล่นก็จะเหงา เศร้า แทบจะขาดใจ บางรายมีพฤติกรรมก้าวร้าว และชอบใช้กำลังอีกด้วย 
ปัญหาทางสังคมที่พบมากที่สุด
ปัญหาทางสังคมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวันที่พบมากที่สุด พอสรุป ปัญหาได้ ดังนี้
มีผลต่อความคิดและพฤติกรรมของมนุษย์
ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ที่มีพัฒนาการที่ดีและรวดเร็วขึ้น
เกิดการแพร่กระจายของข้อมูลที่เป็นเท็จมากขึ้น
เกิดข้อมูลหลอกลวง
สะดวกสบายมากขึ้นแต่ก็มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
เกิดการบุกรุก โจมตีข้อมูลองค์กรและส่วนราชการ
มีผลกระทบต่อการศึกษา ผู้เรียน เด็ก ติดเกม มากขึ้น
เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์
นำเทคโนโลยีมาใช้ในทางที่ผิด
เป็นช่องทางในการเกิดอาชญากรรม
เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ผลกระทบด้านบวก
1. การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
2. เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส   เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอกาสการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่จะใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร
3. สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน   การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศใน โรงเรียนมากขึ้น
ผลกระทบด้านลบ
1. ก่อให้เกิดความเครียดในสังคมมากขึ้น เนื่องจากมนุษย์ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เคยทำอะไรแบบใด มักจะชอบทำแบบนั้น ไม่ชอบการ เปลี่ยนแปลง แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปเปลี่ยนแปลง บุคคลที่รับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ จึงเกิดความวิตกกังวล จนกลาย เป็นความเครียด กลัวว่าคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศจะทำให้คนตกงาน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเข้ามาทดแทนมนุษย์
2. ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม  หรือการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของคนในสังคมโลก ทำให้พฤติกรรมที่แสดงออกด้านการแต่งกาย และการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป การมอมเมาเยาวชนในรูปของเกมส์อิเล็คทรอนิคส์ ส่งผลกระทบ ต่อการพัฒนาอารมณ์และจิตใจของเยาวชน เกิดการกลืนวัฒนธรรมดั้งเดิมซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของสังคมนั้น
3. ก่อให้เกิดผลด้านศีลธรรม   บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้า และเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป
4. การมีส่วนร่วมของคนในสังคมลดน้อยลง   การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ในการสื่อสารและการทำงาน แต่ในอีกด้านหนึ่งการมีส่วนร่วมของกิจกรรมทางสังคมที่มีการพบปะสังสรรค์กันจะน้อยลง ผู้คนมักอยู่แต่ที่บ้านหรือที่ทำงานของตนเองมากขึ้น
5. การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลโดยการเผยแพร่ข้อมูลหรือรูปภาพต่อสาธารณชน
ซึ่งข้อมูลบางอย่างอาจไม่เป็นความจริงหรือยังไม่ได้พิสูจน์ความถูกต้องออกสู่สาธารณะชน ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคลโดยไม่สามารถป้องกันตนเองได้ การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่นนี้ ต้องมีกฎหมายออกมาคุ้มครองเพื่อให้นำข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ในทางที่ถูกต้อง
6. เกิดช่องว่างทางสังคม  การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องกับการลงทุน ผู้ใช้จึงเป็นชนชั้นในอีกระดับหนึ่งของสังคม ในขณะที่ชนชั้นระดับรองลงมามีจำนวนมากกลับไม่มีโอกาสใช้และผู้ยากจนก็ไม่มีโอกาสรู้จักกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
7. ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ   นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงาน การศึกษา บันเทิง ฯลฯ การจ้องมอง คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน มีผลเสียต่อสายตา ซึ่งทำให้สายตาผิดปกติ มีอาการแสบตา เวียนศีรษะ นอกจากนั้นยังมีผลต่อสุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท 
 ทางออกของปัญหาวัยรุ่นที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้  ต้องแก้ไขโดยการปลูกฝัง ธรรม และศีลธรรมให้ตรงกับยุคสมัย คือใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหา  เปรียบเสมือน หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง  คือใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาให้วัยรุ่นได้เข้าถึง สื่อเทคโนโลยีที่ดีและให้การสนับสนุนกิจกรรมด้านศีลธรรมที่เน้น ไปที่การรักชาติ   ศาสนา   พระมหากษัตริย์ให้มากๆ   ดังต่อไปนี้

                 ด้านครอบครัว   พ่อแม่ไม่ควรตามใจลูกมากเกินไปในการใช้สื่อเทคโนโลยี  ควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและอยู่ใกล้ชิดลูกที่เป็นวัยรุ่น ให้ความอบอุ่นที่ไม่เน้นวัตถุ แต่ควรเน้นกิจกรรมที่ต้องใช้ปฏิสัมพันธ์กันทั้งหมดภายในครอบครัว  มีข้อมูลสถานที่มีกิจกรรมส่งเสริมด้านศีลธรรมในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะ พ่อแม่คือ หมอคนแรกที่จะฉัดวัคซีน ด้านคุณธรรมให้ลูกก่อนใครๆ ควรพาลูกไปวัด หรือสถานที่ มีกิจกรรมด้าน ธรรมร่วมสมัยสำหรับวัยรุ่น สถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีกิจกรรมสำหรับวัยรุ่น  ค่ายศิลปะ   ค่ายคุณธรรม  ค่ายภาษา  ค่ายอาสาพัฒนา   ค่ายเกี่ยวกับธรรมชาติ  เป็นต้น  คือพ่อแม่ต้องมีข้อมูลในเรื่องเหล่านี้บ้าง  หรือหาโอกาสไปทำบุญที่วัด  หรือทำกิจกรรมร่วมกันในต่างจังหวัด
 หรือเน้น ส่งเสริมให้วัยรุ่นอ่านหนังสือธรรมร่วมสมัยที่วัยรุ่นชอบอ่าน อาจเน้นตลกไม่น่าเบื่อ  ในรูปของวิดิทัศน์ ที่วัยรุ่นสามารถพกพาได้สะดวก ไม่ควรพาลูกๆไปเที่ยวแต่ห้างสรรพสินค้าอย่างเดียว  เพราะจะเป็นการปลูกฝังให้เด็ก รับข้อมูลที่เป็นวัตถู เมื่ออยากได้ก็ต้องซื้อ  เพราะเด็กจะไม่สารถแยกแยะได้  ว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็น หรือ ไม่จำเป็น   เมื่ออยากได้  พ่อแม่ก็ตอบสนองด้านเทคโนโลยีมากเกินไป  จนเกิดความเคยชิน
            พ่อแม่พาวัยรุ่นไปวัด ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำให้จิตใจวัยรุ่นสงบมากที่สุด และสิ้นเปลืองน้อยที่สุด   เลือกวัดที่เน้นธรรมชาติ พาลูกไปนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบเป็นแบบอย่างให้ลูก  ตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารไปใส่บาตร   ไปไหว้พระตามต่างจังหวัดบ้าง เขาจะเกิดความสุขจากข้างใน เกิด ภาวะบุญ จุติในจิต   ที่ละเอียด ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในยุคเทคโนโลยีที่ทันสมัยแค่ไหน เมื่อเขาโตขึ้นเด็กจะแยกแยะได้ว่า  สุขแท้ และสุขเทียม  อยู่ที่ไหน ดังนั้น วัยรุ่นจะไม่ถูกเทคโนโลยีครอบงำ  มีภูมิคุ้มกันจากภายใน อยู่ในโลกเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย
            ในด้านโรงเรียนหรือสถานศึกษา ไม่ควรเน้นในเรื่องวิชาการและการแข่งขันกันอย่างเดียว  ควรเน้นกิจกรรมเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ปลูกฝังจิตสาธารณะในสถานศึกษา   ไม่ใช่ว่าเน้นวิชาการอย่างเดียว  เพราะเด็กที่เก่งมากๆ นั้นอาศัย สมองดีแต่อาจขาดจิตสำนึกที่ดีต่อส่วนรวม  เพราะ คนที่ดี นั้นเกิดขึ้นที่ จิต   เมือจิตดีแล้วสมองก็ดีเอง  กิจกรรมของโรงเรียนควรเน้น  การเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรม   เน้นการมีจิตสาธารณะ   และการเป็นอาสาสมัครให้มากๆ  วัยรุ่นก็จะภาคภูมิใจในตนเองมากกว่า จะเอาเวลาไปหมกมุ่นในเรื่องไร้สาระอย่างเดียวจนเกิด ภาวะ คลั่งไคล้ดารานักร้อง และค่านิยมที่ผิดๆ  เช่นการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมเป็นต้น   โรงเรียนควรพาเด็กทำกิจกรรมเข้าค่ายคุณธรรมแบบบูรณาการ  ควบคู่กับวิชาการด้วย เช่น พาเด็กวัยรุ่นไปช่วยตักอาหารให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า   ไปเยี่ยมบ้านคนชรา   บำเพ็ญประโยชน์ตามสถานที่ส่วนรวม  ศึกษาดูงานภายในชุมชน  แล้วให้เขียนรายงาน มาส่ง อย่างนี้เป็นต้น   ไม่ใช่ว่ามีแต่เคี่ยวเข็ญให้เรียนเก่งๆทำการทดสอบระดับชาติให้ได้คะแนนสูงๆอย่างเดียว ในเมื่อจิตใจเด็กวัยรุ่นเต็มไปด้วยมลภาวะ แล้วเด็กจะเก่งได้อย่างไร  แต่ถ้าเด็กมี  จิตใจดีแล้วสมองก็ดี ตั้งใจเรียนเอง
            สื่อ  วารสาร  หรือ หนังสือพิมพ์    อินเตอร์เนท ควรหลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวที่เป็นลบ และยั่วยุในเรื่องเพศ  ควรมีกฎหมายเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อที่หมิ่นเหม่ไปในด้านยั่วยุในเรื่องเพศสำหรับวัยรุ่น ซึ่งมีมากมายในหนังสือ วารสารต่างๆจนวัยรุ่นไม่มีสมาธิเรียนหนังสือ เพราะสื่อมีเสรีมากขึ้นในการนำเสนอ แต่ขาดจิตสาธารณะ เน้นธุรกิจอย่างเดียว จนมีสื่อในด้านลบ ๆเต็มไปหมด  ควรมีข่าวหรือหัวข้อที่ส่งการส่งเสริมและให้รางวัลวัยรุ่นที่ทำความดีให้มากกว่านี้เพราะจะได้เป็นแบบอย่างให้วัยรุ่นคนอื่นๆได้ทำตาม
          นโยบายของรัฐบาลด้านการศึกษาควรเน้นการ คุณธรรมนำความรู้อย่างเป็นรูปธรรม ควรให้โอกาส และส่งเสริมสื่อเทคโนโลยี ด้านธรรมให้มากๆในรูปของรายการโทรทัศน์เชิงสร้างสรรค์    ส่งเสริมให้ครอบครัว และ พ่อแม่ครอบครัวของเด็กมีงานทำใกล้ๆบ้านและอยู่ใกล้ชิดกันอย่างอบอุ่น ไม่ต้องไปทำงานในกรุงเทพ หรือในเมืองใหญ่ๆ มีนโยบายกระจายรายได้ และงาน มาอย่างทั่วถึงในต่างจังหวัด พ่อแม่จะได้ไม่ต้องอพยพไปทำงานกรุงเทพ แล้วส่งแต่เงินมาให้ลูก

เมื่อลูกได้รับแต่เงิน แต่ไม่ได้รับความอบอุ่นและการอบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิดแล้ววัยรุ่นก็คงใช้เงินไปในทางไม่ถูกต้อง คือ ไปเที่ยวกลางคืน ต้องไปพึ่งพา หรือไปติดเพื่อนที่ไม่ดี ชักชวนกันไปมั่วสุมในเรื่องยาเสพติด  เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสังคมตามมา
ความเจริญด้านเทคโนโลยีนั้นมีประโยชน์มากในตัวของมันเอง แต่ผู้ใช้และมีเสพต้องตระหนักและเลือกใช้ให้อยู่ในกรอบของศีลธรรม โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากเกินและการแก้ปัญหาวัยรุ่นในยุคเทคโนโลยีนี้ควรเริ่มตั้งแต่ครอบครัว  โรงเรียนสถานศึกษา  และระดับชาติ คือเริ่มปลูกฝังศีลธรรมจริยธรรม  ส่งเสริมให้มีความภาคภูมิใจใน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  ตั้งแต่เป็นเด็ก ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะเจริญขนาดไหนก็ตาม เราก็จะสามารถใช้เทคโนโลยีภายใต้เครื่องมือควบคุม คือ คุณธรรมได้ทุกยุคทุกสมัยความเสื่อมโทรมของสังคมและพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีของวัยรุ่นในปัจจุบันนั้น หากใช้ผิดประเภทและไม่ถูกวิธีก็อาจจะได้รับผลเสียหรือตกเป็นเหยื่อจากภัยสังคมได้ เพราะโลกปัจจุบัน ที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ไม่มีที่สิ้นสุด ได้ก่อเกิดนวัตกรรมที่สร้างความสะดวกสบายให้แก่มนุษย์ในหลายๆด้าน ไปมาหาสู้กันด้วยยานพาหนะ จัดส่งเอกสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ติดต่อค้าขายด้วยเครื่องคมนาคมและเส้นทางคมนาคมที่ทันสมัย ติดต่อสื่อสารกันด้วยเครื่องมือสื่อสาร เรียกว่าเทคโนโลยีเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการอยู่รอดของมนุษย์ มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตในทุกๆด้าน


ที่มา : http://pfaiis.exteen.com/20130225/entry

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น